รูปของผม1

รูของผม2

รูปของผม3

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บี บอย

ความแตกต่างระหว่าง ,,รัก,, กะ,,ชอบ,,



  ต่อหน้าคนที่คุณรักหัวใจคุณเต้นรัว
ต่อหน้าคนที่คุณชอบคุณรู้สึกมีความสุข

    ต่อหน้าคนที่คุณรักฤดูหนาวเป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ
ต่อหน้าคนที่คุณชอบฤดูหนาวเป็นฤดูหนาวที่งดงาม

    ถ้าคุนจ้องหน้าคนที่คุณรักคุณจะหน้าแดง
ถ้าคุณจ้องตาคนที่คุณชอบคุณจะยิ้มออกมา

    ต่อหน้าคนที่คุณรักคุณไม่สามารถพูดทุกสิ่งในใจคุณได้
ต่อหน้าคนที่คุณชอบคุณทำได้

    ต่อหน้าคนที่คุณรักคุณจะเขินอาย
ต่อหน้าคนที่คุณชอบคุณเปิดเผยความเป็นคุณได้

    คนที่คุณรักมักเข้ามาอยุ่ในใจคุณทุก2นาที

    คุณไม่สามารถสบตาคนที่คุณรักตรงๆได้
แต่คุณยิ้มและสบตาคนที่คุณชอบตรงๆได้

    เมื่อคนที่คุณรักร้องไห้คุณจะร้องไห้ไปกับเขา
แต่เมื่อคนที่คุนชอบร้องไห้คุณจะปลอบเขา

    ความรู้สึกรักเริ่มต้นจากดวงตา
ความรู้สึกชอบเริ่มต้นที่หู

ฉะนั้นถ้าคุณจะเลิกชอบคนที่คุณชอบก็แค่ปิดหูของคุณเท่านั้นก็พอ

แต่ถ้าคุนพยายามจะปิดตา รักจะกลายเป็นนํ้าตา

และเมื่อคุณเปิดตาขึ้นอีกครั้ง

.... คุณก็จะได้รู้ว่า

สิ่งที่คุณเสียไปคือคนที่คุณรักมากที่สุด
ส่งบทความนี้ต่อ พิมพ์หน้านี้ แบ่งปัน58
http://bc46.com/images_upload/time.jpg

ช่วงที่ 1 : ความฝัน ตอนเริ่มคบกัน
แรกๆ คุณรู้สึกหลงใหลในตัวเขา จนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอย่างอื่น คงเคยมีบ้างหรอก
ที่คุณเฝ้าแต่วาดรูปหัวใจมีศรปักอก แล้วสลักชื่อคุณกับเขาลงไป
เดินไปยิ้มไปคนเดียวด้วยความคิดถึงเขา เวลาคุยกับเพื่อน
ไม่พ้นเรื่องของเขาอีกนั่นแหละ จนเพื่อนๆ เบื่อหน่าย
ในช่วงที่คุณตกหลุมรักตอนแรกๆ ยากจะบอกได้ว่า
ความรักของคุณจะยืนยาวต่อไปหรือไม่ เพราะท่าทางพึงพอใจ
โดยเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก
โดยไม่คำนึงถึงความรักเท่าใดนัก
บางทีเขาอาจจะทำเรื่องที่เหลวไหลหรือแย่แค่ไหน
คุณก็มองไม่เห็น เพราะความหลงยังบังตาอยู่
แม้ความจริงเป็นสิ่งโหดร้าย
แต่เราต้องยอมรับ เมื่อคุณพบแต่เนิ่นๆ ว่า
เขาไม่ควรค่าแก่การที่คุณจะต้องเสียเวลากับเขา
ดังนั้นในตอนที่ความรักยังหวานชื่นอยู่นั้น
ต้องพยายามรักษาสมองให้ปลอดโปร่ง อย่ารักจนโงหัวไม่ขึ้น
คำถามง่ายๆ ที่คุณควรถามตัวเองเบื้องต้นก่อน เช่น
เขาอ่อนหวานไหม
อารมณ์รุนแรงหรือไม่ สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อคุณ
เป็นสิ่งที่คุณชอบหรือเปล่า
ถ้าคำตอบคือ ไม่แน่ใจ
ก็ต้องทบทวนแล้วว่าความสัมพันธ์ของคุณจะเกิดปัญหา
ในอนาคตหรือเปล่า แต่ช่วงการตกหลุมรักอย่างเป็นบ้าเป็นหลังนั้น
ไม่ใช่ช่วงที่ยืนยาวนัก
บางครั้งหากความสัมพันธ์สนิทชิดเชื้อเกินไป
เกิดร้าวรานได้ง่าย และหนุ่มสาวหลายคู่ทีเดียวที่เลิกรากันในช่วงนี้


ช่วงที่ 2 : เผชิญความจริง
ช่วงนี้เป็นระยะที่คล้ายกับคุณร่อนจากฟ้ามาสู่ดิน
ถ้าคุณบินยิ่งสูงโอกาสตกลงมายิ่งแรง ซึ่งต้องเตรียมไอน์สไตน์ หรือแฟรงเกนสไตน์
มิฉะนั้นโอกาสที่คุณจะลุ่มหลง รูปลักษณ์ภายนอกเขาสูงกว่ามันสมองเขาแน่
จากตรงจุดนี้ คุณจะเห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น เช่น
เขาเล่าเรื่องตลกให้ฟังในขณะที่ข้าวยังเต็มปากอยู่
คุณเริ่มมองเห็นความไม่น่ารักเสียแล้ว คุณอาจพบเรื่องน่าเบื่อ
หรือไม่เข้าท่าหลายอย่างของเขา จุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ
ทำให้คุณเลิกรากับเขาได้
ทั้งที่ตอนแรกคุณประทับใจเขาไปหมด ทั้งรูปร่างหน้าตา
กิริยาท่าทาง การแต่งตัว
พอมาถึงช่วงนี้ ทำไปทำมา
หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มขัดหูขัดตามากขึ้น
ขณะที่เขา ก็มีอาการไม่ต่างไปจากคุณเท่าใดนัก
ดังนั้นในช่วงที่คุณลังเลว่าจะไปจากเขาหรือเปล่า
ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่ทดสอบคุณทั้งสองได้ดีที่สุด
ลองพิจารณอย่างรอบคอบว่า
จุดบกพร่องของเขา จะนำไปสู่การแตกแยกในที่สุดไหม
หรือเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
ที่ไม่ตรงกับความสมบูรณ์แบบที่คุณจินตนาการหรือคาดหวังไว้
ถ้าคุณรักเขาจริงๆ
เรื่องดังกล่าวไม่น่าเป็นอุปสรรคมากเท่าใด
และจำเป็นต้องพิจารณาว่าข้อเสียเหล่านี้ จะทำให้ความรักของคุณ
ดำเนินต่อไปได้หรือไม่
ถ้าคุณตัดสินใจที่จะให้โอกาสทั้งสองฝ่ายควรพูดจาเปิดอกกัน
จะมีประโยชน์กว่า
หรือแม้กระทั่งการใช้อารมณ์ขันเข้าช่วยบางครั้ง
หากคิดว่าข้อเสียของเขามากจนกลบข้อดีเกือบหมด
โบกมือลาคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด


ช่วงที่ 3 : โลกของคนสองคน
เมื่อคุณโชคดีผ่านสองช่วงแรกมาได้ แสดงว่า
ความรักเขาสู่ภาวะที่มั่นคงแล้ว
กลายเป็นโลก ของคนจะนำมาใช้เรียกคุณกับเขาในตอนนี้ และคำว่า
"ฉันรักคุณ" ก็เหมาะกับช่วงนี้เช่นกัน
เขาจะเป็นคู่ครองตัวจริงของคุณ รักและห่วงใยกันเสมอ
มีความใกล้ชิดสนิทสนม
และให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกันได้ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
คนที่คุณอยากจุมพิตเพียงคนเดียว
ระบายความในใจและปรึกษาหารือกันได้
เริ่มวางแผนจะก่อร่างสร้างครอบครัวในอนาคต
ไม่ว่าอุปสรรคใดมาขวางกั้น
ก็พร้อมต่อสู้และเป็นกำลังใจให้กัน
ทว่ามาถึงขั้นนี้ ยังไม่รับประกันว่า
คุณจะครองคู่กันเป็นนิรันดร์ได้
ในช่วงนี้คุณจึงต้องดูว่า เขามีความคิดเข้ากับคุณได้ไหม
รับผิดชอบมากเท่าไร
ยังรักที่จะใช้ชีวิตโสดร่วมกับเพื่อนๆ มากกว่าคุณหรือเปล่า
ถ้าคำตอบในคำถามดังกล่าวยังไม่แน่นอน แสดงว่า
ความสัมพันธ์ยังไม่แน่นแฟ้นพอจะลั่นระฆังวิวาห์ได้
บางครั้งความจริงก็เป็นเรื่องทรมาน แต่ถ้าหลบหนี
มันคุณจะยิ่งเจ็บปวดทวีคูณ
ลางบอกเหตุบางย่าง เช่น การทะเลาะเบาะแว้ง
และสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียด
แม้จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณ ตื่นเต้นหรือหวือหวา
แต่ถ้ามีเงาของความรุนแรงแฝงอยู่ตลอด
จนร่องรอยของความปริร้าวที่เริ่มปรากฏการแยกจาก
ควรเป็นหนทางที่น่าพิจารณาด้วยเช่นกัน
เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงที่ 3 แสดงว่า
พื้นฐานความรักคุณเริ่มลงหลักปักฐาน
แต่อย่าเพิ่งวางใจ แม้ว่าคุณจะมีต้นทุนแน่นอนจำนวนหนึ่ง
แต่ถ้าคุณปล่อยไปตามสภาพโดยไม่รดน้ำพรวนดินต้นรัก
ความรักจะจืดจางได้เช่นกัน

แล้วความรักของคุณตอนนี้ล่ะ อยู่ช่วงไหน?

สพานความรัก

http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/newimages/love_1.jpg


สำหรับคนมีความรัก
ทุกความรู้สึกล้วนเป็นความรัก
เห็นอะไรก็คิดถึงคนรัก..
หายใจเข้าเป็นความรัก หายใจออกเป็นความคิดถึง
ทุกลมหายใจอุ่นอวลด้วยกลิ่นไอความอาวรณ์ ห่วงหา
สารพันความรู้สึก หลากหลายอารมณ์
แต่ทั้งหมดก็มาจากความรู้สึกเดียว
ที่เรียกว่า "ความรัก"

Photobucket

ความรักที่ดลบันดาลให้ใครคนหนึ่ง
สามารถทำอะไรได้มากมาย
เขียนหนังสือได้เป็นเล่มๆ เพื่อจะบอกใครเพียงคนเดียว
ว่าความรักไม่เคยจางหายไปไหน
ความรักยังอยู่..และความรักที่งดงามนั้นก็ไม่เคยตาย..
ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านเนิ่นนานแค่ไหน
ไม่ว่าความรักจะเดินทางถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่
ใครคนหนึ่งก็ยังคงมีรักเดียว
และทุกวินาทีก็ยังคิดถึงแต่คนรัก..

Photobucket

เพราะคนเรามีชีวิตอยู่ได้ด้วย
ความรัก ความหวัง และความฝัน
ถ้าเมื่อไหร่ไม่มีสามอย่างนี้ชีวิตนั้นก็เหมือนตายไปแล้ว..
http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/671/3671/images/sapan.jpg


สะพานชีวิตที่ทอดยาว เส้นทางสีขาวที่ก้าวเดินในแต่ละก้าว
ถูกแต่งแต้มให้เป็นสีต่างๆกันไป
บางก้าวเป็นสีที่สดใส บางก้าวเป็นสีเท่าหม่น
สลับสับเปลี่ยนกันไป ทำให้สะพานดูมีสีสัน
ในขณะที่ฉันเดินมาถึงกลางสะพาน
อีกหลายๆคนเดินอยู่ข้างหลังฉัน
และก็ใครอีกหลายๆคนที่เดินนำหน้าฉัน
นั่นคือเส้นทางที่ทุกคน
จะต้องเดินไปตามบาทวิถี
หนทางสิ้นสุดอยู่ที่ใดทุกคนรู้
อยู่ที่ว่าเราจะก้าวเดินไปอย่างระมัดระวัง
หรือปล่อยจิตใจให้ล่องลอยโดยที่ไม่รู้ว่า
ฉันย่างก้าวถึงไหนแล้ว
ตอนนี้ฉันกำลังล่องลอยอยู่กลางสะพาน
ฉันรู้สึกเคว้ง บางอารมณ์ฉันอยากเดินกลับไป
แต่ในแต่ละก้าวที่ฉันเดินผ่านมา
มันได้ถูกแต่งแต้มสีสันไปแล้ว
แก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะฉนั้น
ในทุกย่างก้าวต่อไป ฉันเตือนตัวเองว่า
จะต้องแต้มสีสันในก้าวต่อไปให้สดใส
ดียิ่งกว่าเดิมจนกว่าหนทางจะสิ้นสุดลง
ตามทางข้างหน้ามันยังคงเป็นสีขาว
ที่รอสีสันมาแต่งแต้ม
ฉันยังคงก้าวเดินต่อไป ต่อไป
บนเส้นทางสะพานชีวิต....

บันดาลใจจาก เรื่องสั้นสะพานชีวิต

คำว่า รัก

คำว่า "รัก" มีอะไรมากมายซุกซ่อนอยู่ในนั้น
อาจจะหวานชื่น ขมขื่น หรืออะไรอื่นอีกหลากหลาย
ที่จะทำให้คนรู้จัก "รัก" ได้สัมผัสและรู้สึกถึง…

ความรักเริ่มจากความคิด
เพราะความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก
บางที.. ความรักอาจทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงความคิดไปจากเดิม
อาจทำให้คนเราต้องปรับปรุงในสิ่งที่เคยทำ เพียงเพื่อให้เข้ากับใครอีกคน

ความรักทำให้เกิดความเคารพ ศรัทธา
คุณจะไม่สามารถรักใครได้ ถ้าไม่รู้สึกเชื่อมั่นเสียก่อน
และคนแรกที่คุณต้องศรัทธาเชื่อมั่น ก็คือตัวเอง

ความรักคือการให้
ถ้าคุณต้องการที่จะได้ความรัก สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการให้ ยิ่งให้.. คุณก็จะยิ่งได้รับ
สูตรลับของความสุข และทำให้มิตรภาพยืนยาวที่คุณควรจะจำเอาไว้เสมอก็คือ
อย่าถามว่าคนอื่นให้อะไรคุณบ้าง แต่ให้ถามว่าคุณทำอะไรให้คนอื่นบ้างจะดีกว่า

ในความรักมีมิตรภาพซ่อนอยู่
อยากได้รักแท้ ก็ต้องหาเพื่อนแท้ให้ได้เสียก่อน
การจะรักกันได้ไม่ใช่แค่มองตา แต่อยู่ที่ว่า.. ต่างคนต่างมีอะไรที่ตรงกันหรือเปล่า
หากจะรักใครอย่างจริงใจ คุณควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่แค่ภาพที่คุณเห็น มิตรภาพก็เหมือนกับปุ๋ยที่ช่วยทำให้ความรักเบ่งบานเติบโตทุกๆ วันนั่นเอง

การสัมผัส ช่วยสานต่อความรักให้ดีขึ้น
เคยรู้สึกดีใช่มั้ยเวลาที่มีใครโอบไหล่หรือกอดคุณ?
การสัมผัส.. จึงเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่มีพลัง
และช่วยทลายกำแพงแห่งความชิงชังไม่เข้าใจได้อีกด้วย
น่าแปลกที่การสัมผัสสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ และท่าทีที่แข็งกร้าวให้เบาบางลงได้

อยากรักต้องรู้จักปลดปล่อย
ถ้าคุณรักใคร.. จงปล่อยให้เขาเป็นอิสระบ้าง
เพราะคุณเองคงรู้สึกอึดอัด ถ้ามีใครมาล่ามโซ่คุณ ดังนั้น..
จงเรียนรู้ที่จะให้อภัยและลืมอดีตที่ไม่ดี เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความกลัวภายในใจ
เรียนรู้ที่จะยุติธรรม และลดทิฐิ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ ลงบ้าง
ลองบอกตัวเองว่า.. นับแต่นี้ คุณจะทิ้งความกลัวทั้งหมด
แล้วอดีตจะไม่มีผลอะไรต่อตัวคุณได้.. นับจากวันนี้ไป คุณก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที

ชีวิตจะเปลี่ยนไป
เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้างและซื่อสัตย์ต่อกัน รวมถึง..
คุยกับคนรักอย่างเปิดเผย และกล้าที่จะพูดถ้อยคำวิเศษว่า "ฉันรักเธอ"
โดยไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดลอยไป
คุณควรจะบอกรักก่อนจากกันทุกครั้งเสมอ เพราะบางที..
นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะพบกัน!

แก่นแท้ของความรัก คือการไว้ใจกัน
ถ้าคุณไม่เชื่อใจกัน ใครคนหนึ่งจะรู้สึกระแวง กังวล และหวาดหวั่น
ขณะที่อีกคนรู้สึกอึดอัดใจ ที่สำคัญ..
คุณไม่อาจรักใครจริงๆ ได้ ถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาคนนั้นอย่างแท้จริง 

ความรัก พูดกันไม่มีวันจบสิ้น

http://www.igetweb.com/www/social/news/52622.jpg

เพราะรักในแบบของใคร ก็เป็นแบบของมันไม่มีแบบแผนตายตัว

อย่าฝืนใจรัก ถ้ามันไม่ใช่ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะคบใครสักคนเพียงเพราะ อยากจะมีใครสักคน

อย่าชิงสุกก่อนห่าม เพราะผู้ชายที่ไม่รู้จักอดทนอดกลั้นเพื่อถนอมหญิงที่รัก
แสดงว่าเขาไม่ได้รักคุณหรอก เค้ารักตัวเองมากกว่า

อย่าเปลี่ยนตัวเองเพียงเพื่อให้เขามารัก เพราะจะทำได้ไม่นาน
วันนึงคุณจะรู้สึกเหนื่อยเพราะความรัก ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง

อย่าหลงในรสชาติของความรัก เสียจนลืมชีวิตประจำวันของตัวเอง หรือสูญเสียความเป็นส่วนตัว

คนที่พร้อมจะอยู่กับคุณโดยที่คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตเลย
คนที่พร้อมจะเดินหน้าเมื่อคุณเดินหน้า
คนที่พร้อมจะถอยหลังไปกับคุณ
คนที่ไม่ยอมให้คุณเดินตามหลัง ขอเพียงเดินเคียงข้างหรือนำหน้า
คนที่ไม่บังคับให้คุณ ทำอะไรในแบบที่คุณไม่ชอบ
คนที่ไว้ใจ ให้อภัย ให้โอกาส ซื่อสัตย์ และให้เกียรติ คุณ
...นั่นแหล่ะ คือคนที่รักคุณจริง.....
จงถนอมคนเหล่านี้ไว้ อย่าปล่อยให้เขาไปจากคุณ..
เพราะคุณจะเสียใจหากเขาเปลี่ยนไปหยิบยื่นความโชคดี
ที่ควรจะเป็นของคุณไปให้คนอื่น

คนที่รักคนที่เปลือกนอกมีอยู่เยอะเหลือเกิน.
ชีวิตคนคนนึงจะมีคนที่รักคุณจริงผ่านมาสักกี่คน
ใครที่บอกว่ารักคุณ แล้วพยายามจะเปลี่ยนคุณ ดึงคุณให้เดินตามทางของเขา
เขาไม่ได้รักคุณจริงหรอก...เขารักตัวเอง
จงเชื่อในพรหมลิขิต
จงเชื่อในเหตุการณ์ที่นำพาความรักมาให้
จงเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีเส้นขนาน
อย่าบอกว่าไม่รัก ถ้าไม่สามารถสบตาเขาอย่างบริสุทธิ์ใจได้
อย่าบอกว่ารัก ถ้าคุณไม่รู้สึกวูบวาบเวลาอยู่ใกล้ๆ
อย่าบอกว่าไม่คิดถึง ถ้า หัวใจไม่อาจลืม
อย่าบอกว่าคิดถึง ถ้า เพิ่งจากกันไม่ถึง 1 นาที
อย่าทิ้งหัวใจของคุณไว้กับอดีต
อย่าคิดว่าอดีตไม่มีวันหวนคืน
อย่าคิดว่าไม่มีพรุ่งนี้
อย่าลืมบทเรียนของเมื่อวาน
ทุกชีวิตยังมีความหวังอยู่เสมอ

จงปล่อยให้ชีวิตดำเนินต่อไป..วันนึงถ้าชีวิตหวนคืนมาสู่ทางสายเก่าที่เคยทำให้

คุณมีความสุขระหว่างเดินทางในแต่ละก้าว..จงอย่าเดินเลี่ยงมันไปอีก
เพราะน้อยนักที่ถนนสายเดิมยังคงสภาพเดิมเพื่อรอให้คุณเดินย้อนกลับมา..
ลองเดินต่อไปสิ..บางทีคุณอาจจะเจอจุดหมายที่คุณค้นหามาตลอดชีวิต
ในเส้นทางที่คุณเคยเดินเลี่ยงมันไปก็ได้...